ในช่วงเวลาที่เหลืออันสั้นของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เยอรมันและโปรตุเกสได้สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ฟุตบอลทั่วโลกด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดและเข้มข้น ในที่สุด เยอรมันก็สามารถเอาชนะโปรตุเกสได้ด้วยการเสมอกัน 2-2 ในช่วงเวลาพิเศษ และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศด้วยการดวลจุดโทษ 6-5
เกมนี้เป็นการพบกันของสองทีมที่แข็งแกร่งจากยุโรป และทั้งสองทีมก็มีโอกาสที่จะชนะตลอดทั้งเกม ในช่วงเวลาแรกของเกม เยอรมันได้เปิดเกมรุกอย่างรวดเร็ว และพยายามที่จะทำประตูให้ได้ แต่โปรตุเกสก็สามารถรับมือกับแรงกดดันของเยอรมันได้ดี และสร้างโอกาสของตัวเองได้บ้างเช่นกัน
ในช่วงเวลาเดียวกันของครึ่งหลังของเกม เยอรมันก็ยังคงรุกอย่างดุดัน และในที่สุดพวกเขาก็สามารถทำประตูได้ในนาทีที่ 60 เมื่อ Kai Havertz ได้ยิงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษของโปรตุเกส ผู้รักษาประตูของโปรตุเกสพยายามที่จะปัดบอลออก แต่บอลก็ไปเข้าประตูของเขา และทำให้เยอรมันขึ้นนำ 1-0
หลังจากที่ได้ประตูนำ เยอรมันก็ยังคงรุกอย่างดุดัน และพยายามที่จะเพิ่มสกอร์ แต่โปรตุเกสก็สามารถรับมือกับแรงกดดันของเยอรมันได้ดี และสร้างโอกาสของตัวเองได้บ้างเช่นกัน ในช่วงเวลาเดียวกันของเกม ผู้เล่นของทั้งสองทีมก็ได้รับบาดเจ็บ และต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม
ในช่วงเวลาเดียวกันของเกม ผู้เล่นของทั้งสองทีมก็ได้รับบาดเจ็บ และต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ในที่สุดเกมก็จบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 และต้องเข้าสู่ช่วงเวลาโทษดวล จุดโทษเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทั้งสองทีมในการคว้าชัยชนะ และในที่สุด เยอรมันก็สามารถเอาชนะโปรตุเกสได้ด้วยการดวลจุดโทษ 6-5 และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020
สำหรับผู้เล่นของเยอรมัน ผู้เล่นคนสำคัญของเกมนี้คือ Kai Havertz ผู้เล่นวัย 21 ปีของเชลซี ที่สามารถทำประตูได้ในนาทีที่ 60 และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในเกมนี้ ผู้เล่นของโปรตุเกสที่ทำผลงานได้ดีในเกมนี้คือ Bruno Fernandes ผู้เล่นที่สามารถทำประตูได้ในนาทีที่ 50 และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในเกมนี้
ในที่สุด เยอรมันก็สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 และจะพบกับทีมชาติอื่นในรอบต่อไป ผู้เล่นของเยอรมันจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะสามารถเอาชนะทีมอื่นในรอบต่อไป และคว้าแชมป์ของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 มาครอง